Skip to main content
Will the Bitcoin Sell-Off Stretch On After $45B ln Whale Dump?

การเทขาย Bitcoin จะเกิดขึ้นต่อหรือไม่ หลังวาฬเทขาย $45,000 ล้านดอลลาร์?

วันพุธ, 11/05/2025 - 15:03

ใครก็ตามที่ติดตามตลาดคริปโตช่วงนี้ แม้เพียงผ่าน ๆ จะสังเกตเหตุว่า Bitcoin อยู่ในช่วงขาขึ้นร้อนแรงติดต่อกันเกือบสามปีแล้ว จากจุดต่ำสุดที่ $16,529 เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2022 คริปโตตัวนี้ได้พุ่งขึ้นมากกว่า 600% จนไปแตะจุดสูงสุดใหม่เหนือ $124,000 ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2025 หลายคนทำกำไรได้มหาศาล แต่ตามธรรมชาติของตลาดกระทิงย่อมมีการปรับฐานครั้งใหญ่ในที่สุด หลังจากที่ฟื้นตัวจากการปรับฐานครั้งก่อนในเดือนสิงหาคม BTC ได้ร่วงลงเกือบ 20% ภายในหนึ่งเดือนแล้วตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ระดับราคาสำคัญทางจิตวิทยาที่ $100,000 ได้ถูกทะลุผ่านลงไป แม้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม ซึ่งทำให้หลายคนกังวลว่า นี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของฤดูหนาวที่ยาวนานของคริปโตแบบปี 2021–2022 

การขายครั้งล่าสุดนี้ถูกขับเคลื่อนโดยวาฬ (กระเป๋าที่มีมากกว่า 100 BTC ขึ้นไป) โดยมี BTC ถูกขายออกมากว่า 400,000 BTC คิดเป็นมูลค่า $45,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้สถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น การปิดหน่วยงานรัฐของสหรัฐฯ และความตึงเครียดในสงครามการค้ากับจีน ยิ่งตอกย้ำมุมมองเชิงลบ และเร่งการเทขายมากขึ้น แน่นอนว่าการทำกำไรจากผู้ที่ถือระยะยาวหลังตลาดขึ้นต่อเนื่องหลายปีเป็นเรื่องปกติและคาดเดาได้ แต่ปัจจัยเหล่านี้กำลังปรับเปลี่ยนไปทิศทางใด และจะส่งผลอย่างไรต่อราคา Bitcoin ในระยะถัดไป?

กำแพงวาฬ

ตามที่เราได้กล่าวไปแล้ว เดือนตุลาคมที่ปกติมักเป็นเดือนที่สร้างกำไรหรือที่เรียกว่า “Uptober” ได้กลายเป็นเดือนของการปรับฐานครั้งใหญ่ โดยได้เกิดการร่วงเกือบ 20% ในเดือนที่ผ่านมาจากแรงขายของนักลงทุน Bitcoin รายใหญ่ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ $45,000 ล้านดอลลาร์ สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจก่อนคือ วาฬจำนวนมากคือธุรกิจที่ต้องปิดงบกำไรจริงรายไตรมาสหรือรายปี ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องขายทำกำไรเป็นระยะ การทำ ATH อีกครั้งใกล้สิ้นปีจะเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับกองทุนที่ถือ BTC ในต้นทุนต่ำกว่า $120,000

นอกจากนี้ มีเหตุผลที่ทำให้นักลงทุน BTC กังวลเกี่ยวกับการเทขายจากฝั่งนักขุด โดยเฉพาะเมื่อ Marathon Holdings ได้ย้าย 2,348 BTC มูลค่า $236 ล้านเหรียญ ไปยังตลาดหลายแห่งหลังจากที่ซื้อในปริมาณใกล้เคียงกันเมื่อเดือนก่อน Vetle Lunde หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ K33 เปิดเผยว่า “มีมากกว่า 319,000 Bitcoin ถูกปลุกขึ้นมาในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหรียญที่ถือมา 6 ถึง 12 เดือน แสดงถึงการทำกำไรแบบมีนัยสำคัญตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม” อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ CoinGlass มีการบังคับปิดโพซิชั่นคริปโตเพียง $2,000 ล้านเหรียญ ใน 24 ชม. ระหว่าง 4-5 พฤศจิกายน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับการบังคับปิด $19,000 ล้านเหรียญ ในการปรับฐานครั้งใหญ่เมื่อเดือนก่อน Open Interest ของ Bitcoin ฟิวเจอร์สยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ และฝั่งออปชั่นเทรดเดอร์กำลังทำชอร์ต BTC ผ่าน put ออปชั่น โดยมีเป้าหมายที่ระดับ $80,000 มันดูเหมือนว่าเราจะยังคงต้องใช้แนวทางรอดูทิศทางจนกว่าจะเป็นที่ชัดเจนว่าจุดที่แย่ที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้วหรือยัง หรือยังมีโอกาสให้ร่วงลงต่อ

เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน

หากมองในกรอบระยะกลางถึงยาว สภาพตลาดโดยรวมยังถือว่าเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างเช่นคริปโต เฟดได้ลดดอกเบี้ยมาแล้วสองครั้ง และล่าสุดเมื่อ 29 ตุลาคม ได้ลดลงอีก 25 bps นอกจากนี้ เงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 3.28% แม้ว่าจะยังสูงกว่าเป้าหมายของเฟด 2% ซึ่งไม่น่าจะทำให้เฟดเปลี่ยนท่าทีแบบ dovish มากนัก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าแปลกใจคือราคา Bitcoin ไม่สามารถกลับไปอยู่ในช่วงก่อนการประชุมได้ และหลังการประชุมราคาได้ปรับตัวลงกลับมาในระดับปัจจุบันที่ $102,021 มันอาจเป็นไปได้ว่าตลาดคาดหวังถึงการปรับลดดอกเบี้ย 50 bps หรืออย่างน้อยคำแถลงที่ให้ความมั่นใจมากกว่านี้จากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เกี่ยวกับโอกาสของการผ่อนคลายเพิ่มเติมก่อนสิ้นปี อย่างไรก็ตาม ประเด็นปัญหาที่เขากล่าวถึง ไม่ว่าจะเป็นการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังดำเนินอยู่ และความตึงเครียดทางการค้าที่ปะทุขึ้นอีกครั้งกับจีน ล้วนเป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง

จริง ๆ แล้ว ความกังวลของนักลงทุนต่อปัจจัยเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การปรับฐานทำกำไรปกติราว 10% กลายเป็นการปรับลึกไปถึง 20% สำหรับตลาดคริปโต โดยเฉพาะฝั่งนักขุด สิ่งสำคัญคือการที่จีนขยายมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก โดยเพิ่มรายการแร่ต้องห้ามอีกห้าชนิด หลังจากที่ปักกิ่งตกลงเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมให้ระงับมาตรการเหล่านี้เป็นเวลา 1 ปี เราน่าจะเริ่มเห็นภาวะ bearish เริ่มทรงตัว เปิดทางให้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดต่ำลงและระดับราคาที่น่าสนใจยิ่งขึ้นดึงผู้ซื้อกลับเข้ามาในตลาดได้มากขึ้น นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือเราต้องทราบว่า การเทขาย $45,000 ล้านดอลลาร์ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิดในตอนแรก เมื่อพิจารณาว่ามูลค่าตลาดของ Bitcoin ตอนนี้สูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ไปแล้ว และไม่ได้มีการขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 5 พฤศจิกายน มันมีความเป็นไปได้ว่าช่วงเลวร้ายที่สุดอาจผ่านพ้นไปแล้ว 

เทรด CFD ของ Bitcoin และอื่นๆ ด้วย Libertex

ด้วย Libertex คุณสามารถเทรด CFD ที่หลากหลาย ในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ได้ Libertex ให้บริการ CFD ที่ค่อนข้างครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นหุ้น, ETF, สกุลเงิน ฟิวเจอร์ส และคริปโต พอร์ต CFD คริปโตของเราประกอบไปด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลดั้งเดิมอย่าง Bitcoin และ Ethereum รวมไปถึง Grayscale Bitcoin Trust และสปอต Bitcoin ETFs อีกมากมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือสร้างบัญชีของคุณเองวันนี้ โปรดไปที่ www.libertex.org/signup

สัมผัสกับความน่าตื่นเต้นของการเทรด!

ลงทะเบียนเปิดบัญชีเดโมกับ Libertex และมาเรียนรู้วิธีการเทรด